ชิวาว่า (Chihuahua)

ชิวาว่า (Chihuahua) post thumbnail image

เชื่อกันว่า สุนัขพันธุ์ชิวาว่าถูกค้นพบครั้งแรกในประเทศเม็กซิโก นับเป็นสุนัขพันธุ์ที่ขนาดตัวเล็กที่สุดในโลก ลักษณะนิสัยที่โดดเด่นคือ ซื่อสัตย์ต่อเจ้าของ ปัจจุบันเป็นที่นิยมอย่างมากในหลายประเทศทั่วโลก

ลักษณะภายนอกของชิวาว่า
ชิวาว่าเป็นสุนัขขนาดเล็ก น้ำหนักเพียง 1-3 กิโลกรัม สูงเพียง 6 – 10 นิ้วเท่านั้น จึงนับเป็นสุนัขที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก รูปร่างกระทัดรัด สวยงาม ความยาวลำตัวมากกว่าความสูงเล็กน้อย ขนของชิวาว่ามีทั้งแบบยาว นิ่ม ตรง เรียบลื่นเป็นเงาและนุ่ม หรือหยักเป็นคลื่น มีปอยขนที่ใบหู มีหลายสี เช่น สีดำล้วน ขาวล้วน มีจุด หรือมีลวดลาย เป็นต้น

อุปนิสัยและอารมณ์ของชิวาว่า
ลักษณะนิสัยที่โดดเด่นของชิวาว่าคือ กระตือรือร้น ร่าเริงคล้ายกับสุนัขในกลุ่มเทอร์เรีย จงรักภักดีต่อเจ้าของ ชอบเอาอกเอาใจ แต่บางครั้งก็ขึ้นอยู่กับลักษณะนิสัยส่วนตัว เช่น บางตัวจะแสดงท่าทีสงวนตัวเวลาอยู่กับคนแปลกหน้า ด้วยการนิ่งเฉย เห่าหรือขู่

การดูแลชิวาว่า
ชิวาว่าเหมาะกับการเลี้ยงในบ้าน ไม่เหมาะกับอากาศหนาวและชอบอยู่ในบริเวณที่มีอากาศอบอุ่น การดูแลขนไม่ยุ่งยาก หากเป็นสายพันธุ์ขนยาว ควรแปรงขนอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 – 3 ครั้ง อาบน้ำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง การออกกำลังทำได้ง่าย เพียงแค่มีพื้นที่ให้วิ่งภายในบ้าน หรือพาออกไปเดินเล่นหรือวิ่งตามสวนสาธารณะโดยใช้สายจูงในระยะทางสั้น ๆ

สุขภาพของชิวาว่า
อายุของสุนัขพันธุ์ชิวาว่าอยู่ระหว่าง 14 – 18 ปี ปัญหาที่พบได้บ้าง ได้แก่ ตาแห้ง (Keratoconjunctivitis sicca; KCS) ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ลิ้นหัวใจตีบ สะบ้าเคลื่อน และสมองบวมน้ำ ปัญหาที่รุนแรงและพบได้บ่อยในสุนัขพันธุ์ชิวาว่า ได้แก่ การมีรูเปิดบนกระโหลกซึ่งเกิดขึ้นจากกระดูกของกระโหลกส่วนหน้าไม่เชื่อมติดกันดี เจ้าของจึงต้องหมั่นดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ

ประวัติสายพันธุ์ของชิวาว่า
ประวัติสายพันธุ์ของชิวาว่าไม่แน่ชัด ความเชื่อแรกกล่าวว่า ชิวาว่าถูกพัฒนาสายพันธุ์ในประเทศจีน จากนั้นถูกนำไปอเมริกาโดยพ่อค้าชาวสเปน แล้วได้รับการผสมข้ามพันธุ์กับสุนัขพื้นเมืองที่มีขนาดเล็ก

อีกความเชื่อกล่าวว่า สุนัขพันธุ์นี้มีต้นกำเนิดมาจากแถบอเมริกาตอนใต้และกลาง โดยพัฒนามาจากสุนัขพื้นเมืองที่มีขนาดเล็กที่เรียกว่า Techichi ซึ่งเป็นเครื่องสังเวยของชนเผ่า Toltec โดยมีความเชื่อว่าสุนัขตัวจิ๋วสีแดงนี้จะนำพาดวงวิญญาณไปสู่ใต้พิภพหลังความตาย

ชาว Toltec และชาว Aztec จึงเลี้ยงสุนัขเอาไว้และฝังไปพร้อมกับคนในครอบครัวที่ตายจากไป (ทั้งสองชนเผ่ามีความเชื่อที่คล้ายกันเกี่ยวกับสุนัข Techichi) แม้ปัจจุบันจะไม่มีการฝังสุนัขในพิธีกรรมทางศาสนาแล้ว แต่นักบวชชาว Toltec และ Aztec ก็ยังคงผูกพันกับและดูแลสุนัข Techichi เป็นอย่างดี

บรรพบุรุษของสุนัขชิวาว่าเกือบสูญพันธุ์ในช่วงปี 1500 เมื่อจักรวรรดิ Aztec ถูกรุกรานและยืดครองโดย Hernan Cortes และอาณานิคมสเปน กระทั่งปี 1850 มีการค้นพบสุนัขขนาดเล็กสามตัวที่คล้ายกับชิวาว่าในปัจจุบัน โดยค้นพบในประเทศเม็กซิโก รัฐ Chihuahua ซึ่งเป็นที่มาของชื่อสายพันธุ์ของสุนัขชนิดนี้ และยังถือว่าชิวาว่าเป็นสัญลักษณ์ของประเทศเม็กซิโกอีกด้วย

ทั้งนี้สุนัขพันธุ์ชิวาว่าเริ่มเป็นที่รู้จักและเป็นที่นิยมในช่วงศตวรรษที่ 19 โดยเหตุการณ์ที่เด่นชัดคือในปี 1890 Adelina Patti นักร้องโอเปร่าได้นำสุนัขพันธุ์ชิวาว่าเดินไปทางทัวร์คอนเสิร์ตยังที่ต่างๆ ซึ่งสุนัขตัวนี้เธอได้รับเป็นของขวัญจาก Porfirio Diaz ประธานาธิบดีของเม็กซิโกในขณะนั้น และในปี 1940 Xavier Cugat หัวหน้าวงดนตรีที่มีชื่อเสียงได้กำกับวงออสเครตร้าโดยอุ้มสุนัขพันธุ์ชิวาว่าเอาไว้ด้วย ทำให้สุนัขพันธุ์ชิวาว่าเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางมากขึ้น

Related Post

เกาะเอโนชิม่า(Enoshima)

เกาะเอโนชิม่า(Enoshima)เกาะเอโนชิม่า(Enoshima)

เกาะเอโนชิมะ (Enoshima Island) เป็นเกาะที่มีพื้นที่เพียง 0.38 ตารางกิโลเมตร ติดชายฝั่งโชนัน (Shonan Coast) อยู่ภายใต้การดูแลของเมืองฟุจิซาวะ (Fujisawa) จังหวัดคานางาวะ (Kanagawa) ซึ่งแต่ละชื่อที่กล่าวมาอาจไม่คุ้นหูคนไทยเลยแม้แต่ชื่อเดียว แต่แท้จริงแล้วที่นี่อยู่ใกล้โตเกียวมากๆ เมื่อถึงหน้าร้อน คนญี่ปุ่นจากโตเกียวและจังหวัดใกล้เคียงมักจะเดินทางมาที่นี่เพื่อเล่นน้ำบริเวณชายหาดฝั่งแผ่นดินใหญ่ พูดตามตรงว่าเมื่อเทียบกับชายหาดบ้านเรา ที่ไทยน่าเล่นมากกว่า นอกจากชายหาดแล้วที่เกาะนาโอชิมะยังเต็มไปด้วยสิ่งที่น่าสนใจมากมาย มีเสน่ห์จนน่าเก็บไว้เป็นความทรงจำดีๆ สักครั้ง เกาะแห่งนี้จัดอยู่ใน 100 ภูมิทัศน์ที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น (100 Landscapes of Japan) และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากของญี่ปุ่นมาตั้งแต่สมัยโบราณ บนเกาะมีจุดที่น่าถ่ายรูป

พอยเตอร์ (Pointer) น้องหมาพลังเยอะพอยเตอร์ (Pointer) น้องหมาพลังเยอะ

น้องหมาพันธุ์ “พอยเตอร์” ถูกพัฒนาเมื่อหลายร้อยปีมาแล้วเพื่อใช้ในการชี้เหยื่อ อย่างเช่น นก และกระต่าย น้องเป็นสุนัขที่เลี้ยงไว้ในทุ่งหญ้าเพื่อใช้งานและเป็นสมาชิกในครอบครัว นอกจากนี้ยังโดดเด่นในสนามแสดงสุนัขอีกด้วย ด้วยรูปร่างที่ดูสง่า มีความปราดเปรียวว่องไว ซื่อสัตย์ เชื่อฟัง มีพลังงานล้นเหลือ รักสนุก เหมาะกับครอบครัวที่ชอบออกไปทำกิจกรรมต่างๆ  ใครที่อยากจะรู้จักน้องให้มากขึ้นก็ตามมาได้เลย  ประวัติความเป็นมาของพอยเตอร์ ต้นกำเนิดที่แท้จริงของน้องยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ แม้จะมีบันทึกเกี่ยวกับสุนัขพันธุ์นี้ในช่วงปี 1650 หลักฐานอย่างหนึ่งที่ยืนยันได้ว่าน้องพอยเตอร์ถูกพัฒนาสายพันธุ์ในช่วงศตวรรษที่ 16 และ 17 คือสุนัขสายพันธุ์ชี้เหยื่อ (pointing dog) อย่างเช่นในโปรตุเกสและสเปนิชพอยเตอร์ที่ถูกนำไปจากแผ่นดินใหญ่สู่ประเทศอังกฤษ ถึงแม้รายละเอียดความเป็นมาที่ถูกต้องของน้องจะยังเป็นปริศนา แต่ก็เป็นที่เชื่อกันโดยทั่วไปว่ามีสุนัข

เทคนิค เลี้ยงร็อตไวเลอร์ให้ขี้เล่น ทำได้ไม่ยากเทคนิค เลี้ยงร็อตไวเลอร์ให้ขี้เล่น ทำได้ไม่ยาก

ขึ้นชื่อว่าเป็นพันธุ์ร็อตไวเลอร์ (Rottweiler) หลายๆ บ้านที่ได้ฟังอาจจะไม่ให้ความนิยมว่าเป็นสัตว์เลี้ยงที่สวยงามนัก แต่ความเป็นจริง ร็อตไวเลอร์เป็นสุนัขที่มีโครงสร้างและกล้ามเนื้อสวยงาม และหากได้รู้จักนิสัยใจคอที่แท้จริงของสุนัขพันธุ์นี้แล้ว อาจจะจัดอยู่ในกลุ่มสุนัขที่มีความฉลาดเฉลียว ฝึกอบรมได้ง่าย และมีความจงรักภักดีกับเจ้าของมากที่สุด เพราะความพิเศษของเจ้าสุนัขพันธุ์นี้ในด้านของความจงรักภักดีกับเจ้าของ ผนวกไปถึงเรื่องของความขี้สงสัยและความอยากรู้อยากเห็นที่มีอยู่ในตัว ทำให้ดูเหมือนจะเป็นสุนัขที่ไม่อยู่นิ่ง ยิ่งด้วยใบหน้าที่ดูทะมึนด้วยแล้ว ยิ่งสร้างความรู้สึกให้ผู้เห็นเกรงขามและไม่กล้าเข้าใกล้ แต่เมื่อได้พูดคุยกับเจ้าของฟาร์มธารารัตน์ ซึ่งการันตีให้ฟังว่า สุนัขสายพันธุ์ร็อตไวเลอร์นี้ เป็นสุนัขที่สามารถฝึกได้ และไม่ใช่สุนัขดุอย่างที่คิด เด็กหนุ่มวัย 26 ปี ก้าวเข้ามาเป็นเจ้าของฟาร์มสุนัขร็อตไวเลอร์ ตั้งแต่ 6 ปีที่แล้ว คุณธารา เล่าให้ฟังว่า ชอบสุนัขมาตั้งแต่เด็ก