Bishopbark Article เรื่องควรรู้เกี่ยวกับการทำหมันสุนัข แมว

เรื่องควรรู้เกี่ยวกับการทำหมันสุนัข แมว

เรื่องควรรู้เกี่ยวกับการทำหมันสุนัข แมว

สุนัข แมวเป็นสัตว์เลี้ยงที่อยู่คู่กับคนเรามานาน ซึ่งความสามารถในการเลี้ยงสัตว์ของแต่ละครอบครัวมักมีจำกัด การทำหมัน สุนัข แมว เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้ออกลูกจำนวนมากจนเกินไป จึงเป็นสิ่งจำเป็น

การทำหมันสุนัขและแมวทำได้ทั้งสองเพศ โดยก่อนทำหมัน สัตวแพทย์จะมีการคํานวณปริมาณยาสลบที่ใช้ตามน้ำหนักตัว เพื่อไม่ให้เป็นอันตรายต่อสัตว์ และทำหมันภายในห้องที่ปลอดเชื้อโรค มีอุปกรณ์ผ่าตัด เช่น คีม กรรไกร ไหมเย็บ ที่ทำความสะอาดพร้อมใช้ เพื่อความปลอดภัยของสัตว์เลี้ยงของคุณ

การทำหมันสุนัขและแมว ตัวเมีย

ส่วนใหญ่ใช้วิธีการตัดรังไข่และมดลูกออกไปจากตัวเมีย ซึ่งเรียกว่าวิธี OVH ทำให้ไม่มีโอกาสตั้งท้องได้อีกร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งในอดีตจะใช้วิธีตัดเอาเฉพาะรังไข่ออกจากตัว แต่ก็จะทำให้มีโอกาสติดเชื้อภายในมดลูก ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพสัตว์ได้

บางกรณีที่เลือกตัดเฉพาะมดลูกออกจากตัวเมีย เพื่อให้มีรังไข่สำหรับสร้างฮอร์โมนอยู่ แต่ก็จะมีผลเสียคือ ตัวเมียยังมีอาการคล้ายติดสัดได้และเกิดการยอมให้สัตว์ตัวผู้มาผสมพันธุ์ได้อยู่

การทำหมัน สุนัข แมว ตัวเมียแบบ OVH สามารถทำได้เมื่อแมวอายุ 8 เดือน และสุนัขอายุ 6 เดือนขึ้นไป เพราะมั่นใจได้ว่าการระบบสืบพันธุ์และฮอร์โมนที่ควบคุมการเจริญของอวัยวะต่าง ๆ ของสัตว์ทำงานได้อย่างเต็มที่แล้ว จะมีผลข้างเคียงต่อสุขภาพในระยะยาวน้อยที่สุด

การทำหมันสุนัขและแมว ตัวผู้

ในปัจจุบันมี 2 เทคนิค คือ การตัดเอาลูกอัณฑะออกสองข้าง หรือ การตัดท่อนำอสุจิให้ขาด แต่วิธีหลังนั้น จะทำให้สัตว์ตัวผู้ยังมีพฤติกรรมทางเพศอยู่ เพราะยังสามารถผลิตฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนจากถุงอัณฑะของสัตว์เพศผู้ได้

อย่างไรก็ตาม ก่อนการทำหมัน ควรปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อกำหนดวันเวลาที่ชัดเจน เพื่อเตรียมความพร้อมคือ ต้องงดน้ำและอาหารอย่างน้อย 8 ถึง 12 ชั่วโมง สำหรับป้องกันไม่ให้เกิดการสำลักอาหารลงในหลอดลมระหว่างการผ่าตัดซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ทั้งนี้ก่อนการผ่าตัด สัตวแพทย์จะตรวจอีกครั้งหนึ่งว่าสัตว์อยู่ในภาวะปกติ มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง ไม่มีอาการป่วย โดยการตรวจร่างกายทั่วไปและเจาะเลือดเพื่อหาเชื้อโรคร้ายที่อาจซ่อนอยู่ หากผลเลือดออกมาเป็นปกติ ก็สามารถทำหมันได้ตามกำหนด แต่หากมีความผิดปกติที่ต้องรักษาก่อน เจ้าของก็จำเป็นต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของสัตวแพทย์อย่างเคร่งครัด เมื่อรักษาหายแล้ว จึงค่อยทําหมันเป็นลำดับต่อไป

เราหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ทุกท่านเข้าใจกระบวนการทำหมัน สุนัข แมว ได้ดียิ่งขึ้น การทำหมันที่ถูกต้องจะดีต่อสุขภาพของสัตว์เลี้ยง และป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาสุนัขและแมวจร ที่จะสร้างปัญหาแก่สังคมในอนาคตด้วย

Related Post

ตูบหลงทางนั่งเศร้าบนรถโดยสาร โซเชียลช่วยตามหาเจ้าของแต่ไร้วี่แวว! ไม่มีใครทราบว่า สุนัขตัวนี้มาจากไหนและใครเป็นเจ้าของตูบหลงทางนั่งเศร้าบนรถโดยสาร โซเชียลช่วยตามหาเจ้าของแต่ไร้วี่แวว! ไม่มีใครทราบว่า สุนัขตัวนี้มาจากไหนและใครเป็นเจ้าของ

เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ชาวออนไลน์ได้ช่วยกันแชร์ภาพของสุนัขสายพันธุ์สแตฟฟอร์ดเชียร์ เทอร์เรีย ตัวหนึ่งที่เดินหลงทางขึ้นไปบนรถโดยสารสาย “620 First Bus” ในเมืองเวสต์ ยอร์คเชอร์ ประเทศอังกฤษ ที่กำลังมุ่งหน้าเข้าเมืองแบรดฟอร์ด ตามลำพัง โดยไม่มีใครทราบว่า สุนัขมาจากไหนและเจ้าของของมันเป็นใคร  …      Gemma Burton พลเมืองดีที่อยู่บนรถโดยสารคันเดียวกับสุนัขหลงทางตัวนี้ เป็นผู้ที่ถ่ายภาพสุนัขที่นั่งหน้าเศร้า ก่อนนำมาแชร์ในโลกออนไลน์ โดยเล่าว่า สุนัขตัวดังกล่าวได้เดินขึ้นรถที่จุดรับ Bierley มันกระโดดขึ้นมานั่งบนเบาด้วยสีหน้าเศร้า ซึ่งระหว่างทางสุนัขพยายามจะลงจากรถแล้วครั้งหนึ่ง แต่จุดดังกล่าวมีรถสัญจรไปมาหนาแน่นและวุ่นวาย ทำให้มันไม่สามารถลงจากรถได้      ผู้โดยสารและพนักงานบนรถโดยสายจึงทำหน้าที่ช่วยกันดูแลสุนัขไปจนถึงสถานีปลายทาง

ลักษณะนิสัยของสุนัขไซบีเรียน ฮัสกี้ลักษณะนิสัยของสุนัขไซบีเรียน ฮัสกี้

อุปนิสัย: เป็นสุนัขที่มีความเฉียวฉาด อารมณ์ดี ตื่นตัวตลอดเวลา กระโดดโลดเต้น ขี้เล่น สนใจสิ่งแปลกใหม่ โดยถ้าเปรียบเทียบแล้ว ไซบีเรียน ฮัสกี้ ก็ไม่ต่างกับเด็กเล็กๆ ที่อยากรู้อยากเห็นไปหมดทุกอย่าง นอกจากนี้ ไซบีเรียน ฮัสกี้ ยังเป็นสุนัขนักประชาสัมพันธ์ ชอบที่จะแจกมิตรไปทั่ว ดังนั้นหากมีคนแปลกหน้าเข้ามาในบ้าน มันก็พร้อมที่จะทักทายประหนึ่งเหมือนเคยรู้จักกันมานาน ไซบีเรียน ฮัสกี้ จึงไม่เหมาะสมกับการเลี้ยงไว้เพื่อเฝ้าบ้าน แม้ว่าลักษณะภายนอกจะดูสง่างาม น่าเกรงขาม น่ากลัว แต่โดยเนื้อแท้แล้วเป็นสุนัขใจดี ขี้เล่นเป็นที่สุด สัญชาตญาณนักล่า: สัญชาตญาณจับสัตว์อื่นเป็นอาหารในสุนัขสายพันธุ์ไซบีเรียน ฮัสกี้นั้นมีมาก

การเลี้ยง สุนัข แมว ทำให้คุณพัฒนานิสัยด้านใดบ้างการเลี้ยง สุนัข แมว ทำให้คุณพัฒนานิสัยด้านใดบ้าง

สุนัข แมว เป็นสัตว์เลี้ยงที่อยู่ใกล้ชิดกับคน เป็นที่นิยมมาตั้งแต่สมัยโบราณ ทั้งสองสามารถสร้างความเพลิดเพลินและลดความเครียดจากการทำงานแต่ละวันให้แก่เจ้าของได้ ทั้งมีการศึกษาวิจัยทางสถิติพบว่า สุนัข แมวสามารถทำให้เจ้าของมีการพัฒนานิสัยที่ดีขึ้นได้หลายด้าน ดังนี้ 1. จิตใจอ่อนโยนขึ้น หลายคนที่เป็นคนหงุดหงิดง่าย อารมณ์ร้อน เมื่อเลี้ยงสุนัข แมว จะมีความอ่อนโยนมากขึ้น ใจเย็น รู้จักให้อภัยได้มากขึ้น เพราะคุณได้เรียนรู้ผ่านธรรมชาติของสุนัข แมว ว่าหากคุณมีเมตตาใจเย็นต่อการสอนคำสั่งต่าง ๆ เขาจะแสนรู้และซื่อสัตย์ต่อคุณอย่างมาก จนคุณรู้สึกเอ็นดูและรักมากขึ้นทุกวัน จนทำให้คุณกลายเป็นคนที่จิตใจเมตตาอ่อนโยนมากขึ้นในที่สุด 2. อดทนได้นานขึ้น การที่คุณอยู่กับสุนัข แมวเป็นประจำและต้องการฝึกฝนให้พวกเขาเชื่อฟังคำสั่ง เช่น