ใครจะไปคิดครับว่า ในโลกนี้มีสุนัขพันธุ์หนึ่งที่หายากยิ่งกว่าสัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์บางชนิด ข้อมูลจาก The American Kennel Club หรือ AKC บอกว่า ทั่วโลกมีจำนวนสุนัขพันธุ์ Belgian Laekenois ไม่ถึง 1,000 ตัวเท่านั้น น้อยกว่าจำนวนของแพนด้าเสียอีก เพื่อน ๆ อาจจะได้เคยได้ยินชื่อสุนัขจากเบลเยี่ยมกันมาบ้าง เช่น สุนัขพันธุ์เบลเยี่ยม มาลีนอยล์ แต่เชื่อได้เลยว่าสุนัขพันธุ์นี้นั้น น้อยคนนักที่จะรู้จักกับ Belgian Laekenois น้องเพิ่งจะได้รับการจัดให้อยู่เข้าให้กลุ่มสุนัขต้อนแกะ (Herding) จาก AKC เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 ที่ผ่านมานี้เอง เป็นผลให้ได้รับการยอมรับในการเข้าประกวดอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยถูกจัดอยู่ในกลุ่มสุนัขเบ็ดเตล็ดทั่วไป (miscellaneous) มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 และต่อมาก็ได้รับการขึ้นทะเบียนใน AKC ลำดับที่ 196 มาแล้วก่อนหน้านี้
หลังจากได้ลองหาข้อมูลเพิ่มเติม จึงพบประวัติที่ไม่ธรรมดาเลย ทั้งเคยร่วมรบในสงครามโลกมาแล้ว ว้าว…สุดยอดไปเลย เพื่อน ๆ คงอยากรู้จักกับสุนัขพันธุ์ Belgian Laekenois กันแล้ว ตามผมมาได้เลยครับ
ประวัติและที่มา
สุนัขพันธุ์ Belgian Laekenois เป็นหนึ่งในสุนัขที่หายากที่สุดจากเบลเยี่ยม คำว่า Laekenois อ่านออกเสียงว่า Lak-in-wah มาจากชื่อย่านชานเมือง Laeken (ลาเคิน) ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยม นอกจากนี้ยังเป็นที่รู้จักกันในนาม Laekense และ Chien de Berger Belge เป็นหนึ่งในสุนัขต้อนแกะจากเบลเยี่ยม ซึ่งมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 4 พันธุ์ ประกอบด้วย Belgian Groenendael, Belgian Malinois, the Belgian Tervuren และ Belgian Laekenois แต่มีความแตกต่างกับพันธุ์อื่น ๆ ตรงแหล่งกำเนิด และลักษณะของขนที่มีหยาบ มีสีแดงหรือสีน้ำตาลแกมเหลือง บางตัวอาจมีสีเทาหรือสีเทาแกมเหลือง หน้าที่ดั้งเดิมนั้นก็คือ การต้อนฝูงแกะ และปกป้องผ้าลินินที่ตากอยู่ในทุ่งนาให้แห้ง จัดเป็นสุนัขต้อนแกะ (shepherd) ที่เก่าแก่ที่สุดในเบลเยี่ยม น้องเคยได้รับการจัดระเบียบเพื่อตรวจสอบลักษณะสุนัขพื้นเมืองของเบลเยี่ยมในปี ค.ศ. 1891 เคยถูกนำมาใช้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 ทำหน้าที่เป็นสุนัขส่งสาร เคยมีข่าวลือว่าเป็นที่โปรดปรานของฮิตเลอร์ด้วย น่าเสียดายหลังจากนั้นความนิยมก็ลดน้อยลงอย่างมาก จนใกล้จะสูญพันธุ์ก็ว่าได้ ปัจจุบันมีอยู่ทั้งโลกไม่ถึง 1,000 ตัวเท่านั้นเอง
ลักษณะและพฤติกรรม
สุนัข Belgian Laekenois เป็นสุนัขพันธุ์กลาง-ใหญ่ มีอายุขัย 10-12 ปี เมื่อโตเต็มที่จะมีน้ำหนักตัวเฉลี่ยประมาณ 25-30 กิโลกรัม มีความสูงประมาณ 60 เซนติเมตร (ในท่ายืนสี่ขา) ลักษณะของขนมีความหยาบ และยาวปานกลาง มีสีแดงหรือสีน้ำตาลแกมเหลือง บางตัวอาจมีสีเทาหรือสีเทาแกมเหลือง มีดวงตารูปทรงอัลม่อนด์ที่ส่องประกาย บ่งบอกถึงความกระตื้อรือร้นที่มีอยู่ในตัว ลำตัวแข็งแรงได้สัดส่วน มีหูตั้งเป็นรูปสามเหลี่ยม มีหน้าอกลึกถึงข้อศอก เท้ากลมมีลักษณะคล้ายอุ้งเท้าแมว เป็นสุนัขที่ฉลาดและมีความสามารถหลากหลาย ทางด้านอารมณ์นั้นจัดเป็นสุนัขที่มีความตื่นตัวและร่าเริง เข้าสังคมได้ดี จึงเหมาะที่จะได้รับการเลี้ยงเป็นครอบครัว ไม่ควรถูกขังในคอก รักการออกกำำลังกายมาก ต้องได้วิ่งเล่นทุกวัน มีพลังงานเหลือเฟือ ควรมีพื้นที่และหากิจกรรมกลางแจ้งในทำ สามารถถูกฝึกให้ทำงานในภารกิจต่าง ๆ ได้ด้วย
การเลี้ยงดู
สุนัขพันธุ์นี้มีความแข็งแรงมาก เรื่องสุขภาพไม่เป็นที่น่ากังวลเท่าไหร่ แต่อาจมีโรคและปัญหาสุขภาพบางอย่างที่พบได้บ้าง เช่น โรคข้อสะโพกเสื่อม โรคภูมิแพ้ผิวหนัง หรือปัญหาทางสายตา เป็นต้น การตัดแต่งขน ให้ทำเป็นครั้งคราวขึ้นกับการเลี้ยงดู ระวังการเกิดขนสังกะตัง อาจใช้หวีซี่หยาบสางขนให้เป็นครั้งคราวไปเพื่อไม่ให้ขนพันกันและจับกันเป็นก้อน การอาบน้ำก็ให้ทำเฉพาะเมื่อจำเป็นขึ้นกับความสกปรก ไม่ต้องอาบให้เป็นประจำ แต่เล็บเท้าควรได้รับการตัดอย่างสม่ำเสมอ สำหรับอาหารให้เลือกใช้เป็นสูตรสำหรับสุนัขพันธุ์กลาง-ใหญ่ จะเป็นอาหารสำเร็จรูปหรือเป็นอาหารที่เจ้าของปรุงเองก็ได้ตามคำแนะนำของสัตวแพทย์ เนื่องจากสุนัขพันธุ์นี้มีแนวโน้มจะมีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐานได้ง่าย ดังนั้นการควบคุมพลังงานในอาหารจึงถือเป็นเรื่องสำคัญมาก และอย่าลืมที่จะพาออกกำลังกายเป็นประจำ สุนัขพันธุ์นี้มีพลังงานสูงล้นเหลือ ต้องได้รับการปลดปล่อย ควรมีสนามหญ้าให้วิ่งเล่น หรือพาเดินเล่นทุกวัน หมั่นพาเข้าสังคมบ่อย ๆ ตั้งแต่ยังเด็ก สุนัขพันธุ์นี้หากไม่ได้รับการฝึกฝนให้เข้าสังคมอย่างถูกต้อง อาจมีปัญหาก้าวร้าวได้ง่าย โดยเฉพาะกับคนแปลกหน้า
ก็เป็นที่น่าเสียดายนะครับ ที่ความนิยมเลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้น้อยมาก ทั่วทั้งประเทศสหรัฐอเมริกามีพ่อพันธุ์ Belgian Laekenois อยู่ไม่ถึงหนึ่งโหล ทำให้มีความกังวลเรื่องของความหลากหลายทางพันธุกรรมอาจทำให้มีการผสมเลือดชิดกันได้ เป็นสาเหตุให้สุนัขรุ่นต่อไปนั้นอ่อนแอลง และอาจถึงกาลอวสานได้ หากไม่ได้รับการอนุรักษ์อย่างจริงจัง
