ปอมเมอเรเนียน (Pomeranian) เป็นสุนัขที่จัดอยู่ในกลุ่ม Toy Group แม้ว่าจะมีขนาดตัวเล็กแต่ปอมเมอเรเนียนกลับครองใจเจ้าของผู้เลี้ยงมาอย่างยาวนาน แถมยังเป็นสายพันธุ์สุดโปรดของทั้งเจ้าของอย่างเราและเชื้อพระวงศ์ชั้นสูง แถมประวัติของสุนัขสายพันธุ์นี้ยังมีความน่าสนใจไม่แพ้สายพันธุ์ไหน ด้วยขนที่ฟูดูนุ่มน่ากอด หน้าตาจิ้มลิ้ม มีความเป็นมิตร น่ารักมีชีวิตชีวา ขนาดตัวที่แสนกะทัดรัด ช่างเอาอกเอาใจ แอคทีฟแสนกระตือรือร้น และเก่งไม่แพ้สุนัขสายพันธุ์ไหนในสนามประลองความสามารถก็เล่นทำได้ไปเสียหมดทุกเรื่องขนาดนี้ มิน่าล่ะทำไมใครๆ ก็เรียกปอมเมอเรเนียนว่าเป็นสุนัขตัวเล็กแต่ความสามารถรอบด้าน
ลักษณะของสุนัขสายพันธุ์ปอมเมอเรเนียน
ปอมเมอเรเนียนจะมีน้ำหนักเฉลี่ยอยู่ที่ 1.3-3.1 กิโลกรัม และจัดว่าเป็นสุนัขที่มีขนาดตัวเล็กที่สุดในตระกูลสปิทซ์ (โดยมีญาติๆ เป็นสายพันธุ์ซามอยด์ อลาสกัน มาลามิว และ นอร์วิเจียน เอลก์ฮาวด์) แต่ความนิยมในสุนัขสายพันธุ์นี้ไม่ได้เล็กไปตามขนาดตัว โดยเฉพาะเมื่อปอมเมอเรเนียน กลายเป็นสุนัขตัวโปรดของพระราชินีวิกตอเรีย (อ่านเพิ่มเติมที่ ประวัติสายพันธุ์ปอมเมอเรเนียน)
แม้จะน่ารัก มีขนสวย ฉลาด และแสนภักดีต่อครอบครัวขนาดไหน แต่อย่าปล่อยให้ความน่ารักหลอกคุณว่าสุนัขสายพันธุ์นี้จะมาคลอเคลียคุณตลอดเวลาเพราะปอมเมอเรเนียนก็มีความอินดี้ไม่ใช่เล่น แถมยังมีความขี้สงสัยเป็นที่สุด และถึงจะมีขนาดตัวเล็ก แต่เสียงเห่าของปอมเมอเรเนียนดังไม่แพ้
ใครที่ต้องการจะสอนหรือฝึกปอมเมอเรเนียน บอกเลยว่าคุณสามารถทำได้ แต่ต้องอาศัยความสม่ำเสมอและอดทนในการฝึกหน่อย เพราะถ้าเจ้าของไม่สามารถสร้างความสัมพันธ์กับปอมเมอเรเนียนในฐานะเจ้านายได้ สุนัขสายพันธุ์นี้ก็พร้อมที่จะเป็นนายคุณ และอาจจะสร้างพฤติกรรมน่าปวดหัวให้กับเจ้าของได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
ปอมเมอเรเนียนจัดว่าเป็นสุนัขที่มีพลังงานล้น ชอบที่จะออกไปเดินเล่นข้างนอก รักที่จะเชิดหน้าให้ดูสง่างาม เจอผู้คนใหม่ๆ และสำรวจโลกด้วยการดมฟุดฟิด และความมีพลังงานเชิงบวกของสุนัขสายพันธุ์นี้ ทำให้ปอมเมอเรเนียนเหมาะที่จะเป็นสุนัขที่ช่วยฟื้นฟูผู้ป่วย ผู้สูงอายุที่อยู่ที่บ้าน
การดูแลสุขภาพของปอมเมอเรเนียน
สุนัขสายพันธุ์นี้จัดเป็นสุนัขที่มีสุขภาพโดยรวมดี แต่ถึงอย่างนั้นปอมเมอเรเนียนก็มีโอกาสเกิดปัญหาสุขภาพได้เหมือนกันกับสุนัขสายพันธุ์อื่น โดยอาจพบโรคเหล่านี้ในสุนัขสายพันธุ์ปอมเมอเรเนียนได้
โรคอ้วน : ด้วยความที่เป็นสุนัขขนาดเล็ก หากได้รับปริมาณอาหารที่มากเกินไปอาจทำให้สุนัขเกิดภาวะอ้วนได้
ภูมิแพ้ : สังเกตได้จากการเลียเท้า อมเท้า คันเกา ไถหน้ากับพื้น หากแสดงอาการเหล่านี้ควรพาไปพบสัตวแพทย์
เป็นลม : ในสุนัขปอมเมอเรเนียนบางตัวอาจจะพัฒนากลายเป็นโรคลมชักได้ ซึ่งควรเข้ารับการรักษาอย่างเหมาะสม
ปัญหาตา เช่น ตาแห้ง ต้อกระจก และท่อน้ำตาอุดตัน ควรพาสุนัขไปพบสัตวแพทย์เพื่อทำการตรวจตา และรับการรักษาให้เร็วที่สุด เพราะหากทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษาอาจทำให้ตาบอดได้
ข้อสะโพกเคลื่อน : จะพบท่าเดินที่ผิดปกติ และแสดงอาการเจ็บ หรือลุกนั่งลำบากได้ ปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคมีหลายประการ เช่น สายพันธุ์ สิ่งแวดล้อมที่อยู่ (พื้นที่ลื่น) อาหารที่กิน ซึ่งหากเป็นแล้วต้องทำการรักษาด้วยการผ่าตัด
สะบ้าเคลื่อน : เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในสายพันธุ์ปอมเมอเรเนียน และสร้างความเจ็บปวดให้กับสุนัขที่มีปัญหานี้ ทำให้เกิดอาการขาเจ็บ หรือลักษณะการเดินที่ผิดปกติ โดยสุนัขจะมีการยกขาขึ้นเล็กน้อยขณะเดิน หรือมีการเขย่าขาหรือยืดขาก่อนที่จะกลับมาเดินในท่าปกติ
ปัญหาเหงือกและฟัน : หมั่นพาสุนัขไปตรวจฟันกับสัตวแพทย์เป็นประจำปีละครั้ง และดูแลช่องปากสุนัขด้วยการแปรงฟัน หรือเลือกอาหารที่มีส่วนช่วยในการขัดฟัน
วิถีชีวิตสไตล์ปอมเมอเรเนียน
ด้วยความที่สุนัขสายพันธุ์ปอมเมอเรเนียนจัดเป็นสุนัขขนาดเล็ก ดังนั้นเรื่องพื้นที่ในการเลี้ยงจึงไม่ใช่ปัญหา เพราะสามารถเลี้ยงน้องหมาปอมได้ในพื้นที่จำกัด เช่น อะพาร์ตเมนต์หรือคอนโด (ที่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์) ได้ แต่อาจต้องระวังเรื่องการเห่าที่อาจสร้างความกังวลใจให้กับผู้ที่อยู่อาศัยห้องอื่นๆ
และถ้าอยากจะพาปอมเมอเรเนียนออกไปเที่ยวที่ไหน ก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะเพียงแค่เลือกสถานที่ที่มีร่ม อากาศไม่ร้อนจัด เตรียมน้ำ อาหาร สายจูง และอุปกรณ์ทำความสะอาดไป ปอมเมอเรเนียนก็พร้อมที่จะไปกับเจ้าของได้ทุกที่แล้ว
ผู้เลี้ยงที่เหมาะกับน้องหมาปอมเมอเรเนียน ด้วยนิสัยรักเจ้าของ ขี้ประจบ ปอมเมอเรเนียนจึงเหมาะกับเจ้าของที่มีเวลาดูแลหัวใจสุนัขบ้าง มีเวลาเล่นด้วยกันสักหน่อย แต่ที่สำคัญคือต้องมีเวลาในการดูแลแปรงขน แปรงฟัน ให้กับปอมเมอเรเนียนอย่างสม่ำเสมอ หากใครมีบ้านอยู่ในอะพาร์ตเมนต์ (ที่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้) แต่อยากเลี้ยงสุนัขสักตัว ปอมเมอเรเนียนเป็นสุนัขที่เหมาะกับคุณไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะปอมเมอเร